เพราะปัญหาสิ่งแวดล้อมรอไม่ได้ เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคได้

กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ร่วมกับ กระทรวงการคลัง เปิดมาตรการ Green Tax Expense ที่เชิญชวนให้เหล่าผู้ประกอบการสายกรีน นำรายจ่ายจากการซื้อผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ และได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์จากสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล จำนวน 1.25 เท่า ของค่าใช้จ่าย ถือว่าลดลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

โดยข้อดีของการมีมาตรการนี้ เป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการหันมาใช้พลาสติกที่ย่อยสลายได้ และแน่นอนว่าเมื่อผู้ประกอบการใช้แล้ว จะเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ ให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมช่วยลดโลกร้อนและร่วมสร้างความยั่งยืนไปพร้อมๆ กันได้ เพียงแค่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกจากแบรนด์หรือผู้ประกอบการเหล่านี้นั่นเอง

ผลิตภัณฑ์ที่สามารถขอลดหย่อนภาษีได้ ประกอบไปด้วย 1. ถุงหูหิ้ว 2. ถุงขยะ 3. แก้วพลาสติก 4. จาน/ชาม/ถาดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว 5. ช้อน/ส้อม/มีดพลาสติก 6. หลอด 7. ถุงเพาะชำ 8. ฟิล์มคลุมหน้าดิน 9. ขวดพลาสติก 10. ฝาแก้วน้ำ 11. ฟิล์มปิดฝาแก้ว เรียกว่า เป็นพลาสติกที่ใช้ในชีวิตประจำวันแทบทั้งหมด

ผู้ประกอบการสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม ขอรับใบรับรองผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ ผ่านทาง www.oie.go.th ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธ.ค. 2567

และสำหรับผู้บริโภค เพียงไปใช้บริการที่ร้านค้าดังต่อไปนี้ ก็สามารถช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งแล้ว

ร้านค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ

• Café Amazon
• Inthanin Coffee
• กาแฟชายทุ่ง
• S&P
• ดอยคำ
• GoodAge (Lion)
• Venture
• ROOTS
• Au Bon Pain
• All Café
• CPF
• Starbucks
• CRG
• IKEA
• ทองสมิทธ์
• Mitrphol
• Samed resorts
• มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์
• สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
• BANGPAKOK HOSPITAL GROUP
• LAGUNA GRAND HOTEL
• TUSCAN HILL
• DUSIT HOTEL

แค่เลือกใช้ถูก โลกก็เปลี่ยนได้แล้ว