ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลสำ �คัญอื่น ข้อมูลทั่วไป ผู้สอบบัญชี 1. นายศุภมิตร เตชะมนตรีกุล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 3356 หรือ 2. นายชวาลา เทียนประเสริฐกิจ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 4301 หรือ 3. นายสุวัจชัย เมฆะอ� ำนวยชัย ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 6638 หรือ 4. นายมงคล สมผล ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเลขที่ 8444 บริษัท ดีลอยท์ ทู้ช โธมัทสุ ไชยยศ สอบบัญชี จ� ำกัด เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ชั้น 23-27 11/1 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 66(0) 2 034-0000 โทรสาร 66(0) 2 034-0100 เว็บไซต์ www.deloitte.com ที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท วีระวงศ์, ชินวัฒน์ และพาร์ทเนอร์ส จ� ำกัด 540 อาคารเมอร์คิวรี่ ทาวเวอร์ ชั้น 22 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทรศัพท์ 66(0) 2 264-8000 โทรสาร 66(0) 2 657-2222 เว็บไซต์ www.weerawongcp.com บริษัท ส� ำนักกฎหมาย ด� ำเนิน สมเกียรติ และบุญมา จ� ำกัด 719 ถนนสี่พระยา แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500 โทรศัพท์ 66(0) 2 639-1955 โทรสาร 66 (0) 2 639-1956 ต่อ 58 เว็บไซต์ www.dsb.co.th บุคคลอ้างอิง นายทะเบียนหลักทรัพย์-หุ้นสามัญ บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จ� ำกัด 93 ชั้น 14 ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ 66(0) 2 009-9999 โทรสาร 66(0) 2 009-9991 เว็บไซต์ www.set.or.th/tsd นายทะเบียนหุ้นกู้และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ� ำกัด (มหาชน) 1222 ถนนพระรามที่ 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 66(0) 2 296-2030, 4808, 5557 โทรสาร 66(0) 2 683-1298 เว็บไซต์ www.krungsri.com นายทะเบียนหุ้นกู้สกุลเหรียญสหรัฐฯ Citibank, N.A., London Branch c/o Citibank, N.A., Dublin Branch 1 North Wall Quay, Dublin 1, Ireland Fax: +353 1622 2210 ข้อพิพาททางกฎหมาย ก) คดีความเกี่ยวกับสัญญาซื้อขายวัตถุดิบ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2552 บริษัทแห่งหนึ่งได้ยื่นค� ำเสนอข้อพิพาทต่อ อนุญาโตตุลาการ เพื่อเรียกร้องให้บริษัท ปตท. จ� ำกัด (มหาชน) (“ปตท.”) และบริษัทในฐานะผู้ผลิตให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายวัตถุดิบที่บริษัท ดังกล่าวมีอยู่กับ ปตท. หรือร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงินประมาณ 13,805 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2553 อนุญาโตตุลาการได้มีค� ำสั่งให้จ� ำหน่ายข้อพิพาทในส่วนของบริษัทฯ ออกจากสารบบความแล้ว เนื่องจากบริษัทฯ มิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรง กับบริษัทดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2553 บริษัทดังกล่าวได้ยื่นฟ้องคดีแพ่งเพื่อ เรียกร้องให้ ปตท. และบริษัทในฐานะผู้ผลิตให้ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขาย วัตถุดิบที่บริษัทดังกล่าวมีกับ ปตท. หรือร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายเป็น จ� ำนวน 9,380 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นค� ำให้การคัดค้านค� ำฟ้อง ดังกล่าวต่อศาลแพ่ง เนื่องจากบริษัทฯ มิได้เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับ บริษัทดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2556 ศาลแพ่งได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คดีใน ชั้นอนุญาโตตุลาการ ระหว่างบริษัทดังกล่าว กับ ปตท. ยังไม่มีผลชี้ขาด จึงเห็นควรให้จ� ำหน่ายคดีนี้ออกจากสารบบความเป็นการชั่วคราว และ เมื่อมีผลค� ำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการประการใดแล้ว ให้คู่ความ ทั้งสองฝ่ายหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยื่นค� ำแถลงขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณา คดีต่อไป ต่อมาเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2559 อนุญาโตตุลาการได้มีค� ำชี้ขาดให้ ปตท.ช� ำระค่าเสียหายบางส่วน และเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ปตท. ได้ยื่นค� ำร้องขอเพิกถอนค� ำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่อศาลแพ่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2562 ศาลแพ่งได้มีค� ำพิพากษาให้บังคับ ตามค� ำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ ซึ่ง ปตท. ได้ยื่นอุทธรณ์ค� ำพิพากษา ของศาลแพ่งต่อศาลฎีกาและศาลฎีกาได้มีค� ำพิพากษาให้บังคับตาม ค�ำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ โดยคดีเป็นอันสิ้นสุด และบริษัทฯ ไม่มี ภาระที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายส� ำหรับคดีดังกล่าว ข) คดีความเกี่ยวกับกรณีท่อรับน�้ ำมันดิบรั่ว ในระหว่างไตรมาสที่ 3 ปี 2557 กลุ่มบุคคลจ� ำนวนหนึ่งในจังหวัดระยอง ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งและศาลจังหวัดระยองจ� ำนวนหลายคดี เพื่อขอให้ บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหายเพิ่มและขอให้บริษัทฯ เข้าไปด� ำเนินการฟื้นฟู สภาพแวดล้อมทางทะเลและธรรมชาติ จากกรณีท่อรับน�้ ำมันดิบของ บริษัทฯ รั่ว ซึ่งคดีฟ้องร้องบางส่วนได้ยุติแล้ว และคดีฟ้องร้องบางส่วน ศาลแพ่งได้มีค� ำพิพากษาเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2559 โดยให้บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยและค่าฟื้นฟูสภาพแวดล้อมเป็นจ� ำนวนเงิน ประมาณ 11.26 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 ต่อมาเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 บริษัทฯ ได้ ท� ำสัญญาประนีประนอมยอมความกับโจทก์ส่วนใหญ่ที่ศาลแพ่ง โดย เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ศาลอุทธรณ์มีค� ำพิพากษาตามสัญญา ประนีประนอมยอมความดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ ได้ช� ำระค่าเสียหายไป ครบถ้วนแล้ว ส่วนโจทก์ที่เหลือศาลอุทธรณ์พิพากษาให้บริษัทฯ ชดใช้ ค่าเสียหายพร้อมดอกเบี้ยตามค� ำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ให้ลดจ� ำนวน ดอกเบี้ยลง โดยบริษัทฯ ได้ช� ำระค่าเสียหายให้โจทก์ดังกล่าวแล้ว และ ไม่มีโจทก์รายใดยื่นฎีกาจึงถือได้ว่าคดีเป็นอันสิ้นสุด ส� ำหรับคดีฟ้องร้องที่ศาลจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ศาลจังหวัดระยองได้มีค� ำพิพากษาให้บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหายพร้อม ดอกเบี้ยเป็นจ� ำนวนเงินสุทธิประมาณ 38 ล้านบาท โดยหักเงินเยียวยา 112 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ �กัด (มหาชน) แบบ 56-1 One Report ประจำ �ปี 2564
RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=