GC_ONE REPORT 2021_TH

อุปสงค์โพรพิลีนในปี 2565 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามเศรษฐกิจ ที่ฟื้นตัวเช่นกัน ประกอบกับคาดการณ์ว่าราคาวัตถุดิบของโรง On purpose ทั้งถ่านหิน เมทานอล และก๊าซโพรเพน จะยังคง อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงฤดูหนาวปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 จะท� ำให้อุปทานจากโรงงานดังกล่าวถูกจ� ำกัด จากการไม่คุ้มผลิต แต่ยังมีแรงกดดันจากก� ำลังการผลิตใหม่ ของโพรพิลีนในภูมิภาคเอเชียปี 2565 ที่เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 9.5 ล้านตันต่อปี โดยส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน 7.3 ล้านตันต่อปี โดยภาพรวมจึงคาดว่าราคาโพรพิลีนในปี 2565 มีแนวโน้ม ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 ทั้งนี้ โดยสรุปสถานการณ์ราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ในภาพรวม มีปั จจัยบวกจากความต้ องการผลิตภัณฑ์ ที่เพิ่มขึ้นตาม สถานการณ์เศรษฐกิจโลก การผ่อนคลายมาตรการการควบคุม การระบาดของโควิด-19 แต่ยังมีแรงกดดันจากก� ำลังการผลิตใหม่ ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่าราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ใน ภาพรวมในปี 2565 มีแนวโน้มทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2564 สถานการณ์ตลาด กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เอทิลีนออกไซด์ สถานการณ์ตลาดของผลิตภัณฑ์ Monoethylene Glycol (MEG) ในปี 2564 ยังคงได้รับแรงกดดันจากการขยายหน่วย การผลิตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะจากจีนและสหรัฐฯ อย่างไร ก็ตาม ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภคปลายน�้ ำ บางส่วนยังคงเติบโตได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PET รวมถึง ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Polyester ที่มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นจาก สภาพเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวได้ อีกทั้งตลาดของผลิตภัณฑ์ MEG ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนเพิ่มเติม เช่น ปรากฏการณ์ Polar Vortex ในสหรัฐฯ ที่ท� ำให้หน่วยการผลิตในพื้นที่ต้องหยุดการ ผลิตกะทันหันในบางช่วงเวลา การประกาศใช้อากรป้องกันการ ทุ่มตลาดของยุโรปกับประเทศผู้ผลิตหลัก เช่น ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางการค้า และ การปรับตัวของราคาน�้ ำมันดิบและวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์เคมี อย่างแนฟทาและถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้นจากนโยบายการควบคุม พลังงานในประเทศจีน ท� ำให้หน่วยการผลิตบางส่วนต้องลด ก� ำลังการผลิตเป็นการชั่วคราว จากปัจจัยที่กล่าวมาส่งผลให้ ราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ MEG ณ ตลาดอ้างอิงประเทศจีน (ASP) ในปี 2564 อยู่ที่ 675 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 208 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันจากปี 2563 สถานการณ์ตลาดของผลิตภัณฑ์เอทานอลเอมีน (EA) ในปี 2564 อุปสงค์มีการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากปีที่ผ่านมา โดยได้ รับแรงหนุนจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาเป็นปกติมากขึ้น จากการคลายมาตรการควบคุมโรคระบาด อย่างไรก็ตาม หน่วย การผลิตในหลายประเทศมีการหยุดการผลิตนอกแผนการณ์ที่ วางไว้ เช่น สหรัฐฯ จาก Polar Vortex หรือจีนที่ต้องหยุด ด� ำเนินการผลิตชั่วคราวจากนโยบาย Dual Control Energy Policy ส่งผลให้ตลาดได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากปัจจัยพื้นฐาน โดยราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์ EA ณ ตลาดอ้างอิงประเทศจีน ในปี 2564 อยู่ที่ 1,167 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตันปรับตัวเพิ่มขึ้น 283 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน แนวโน้มสถานการณ์ตลาดเอทิลีนออกไซด์ ในปี 2565 สถานการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์ MEG ในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะ ยังคงฟื้ นตัวอย่ างต่ อเนื่องจากการที่มาตรการควบคุม สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะมีประสิทธิภาพ มากขึ้น ส่งผลให้คาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้ดีขึ้นโดยเฉพาะใน ประเทศจีนที่เป็นตลาดหลักของผลิตภัณฑ์ MEG อย่างไรก็ตาม ยังคงมีหน่วยการผลิตใหม่วางแผนจะขึ้นในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง และรวมถึงโรงงานที่เลื่อนการเดินเครื่องจากปีนี้เช่นเดียวกัน ซึ่ง จะยังคงเป็นปัจจัยหลักในการกดดันธุรกิจและราคาผลิตภัณฑ์ สถานการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์ EA ในปี 2565 คาดว่าการฟื้นตัว ของอุปสงค์จะยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องจากปีปัจจุบัน ส่วน อุปทานจะทยอยกลับมาสู่สภาวะปกติ ส่งผลให้ตลาดจะค่อนข้าง อยู่ในสภาวะสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน สถานการณ์ตลาด กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ฟีนอล ในปี 2564 อัตราการท� ำก� ำไรจากธุรกิจผลิตภัณฑ์ฟีนอลยังคง อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปี 2563 เนื่องจากอุปทานที่ตึงตัวเกือบ ตลอดทั้งปีจากการเกิดปรากฏการณ์ Polar Vortex ในช่วง ไตรมาส 1 ในสหรัฐฯ ส่งผลให้เกิดปัญหาการเดินเครื่อง การ หยุดโรงงานกะทันหันของผู้ผลิตต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ อุปทานในช่วงไตรมาส 2 ลดลงจากการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าระลอก 2 จนท� ำให้ต้องหยุดการด� ำเนินการผลิต อีกทั้ง ตั้งแต่ไตรมาส 3 ผู้ผลิตประสบปัญหาด้านการขนส่ง ทางเรือ และนโยบาย Dual Control Energy Policy ในประเทศจีน ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายต้องหยุดการผลิต หรือลดก� ำลังการผลิต ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้นส่งผลให้ราคาผลิตภัณฑ์ฟีนอล ในปี 2564 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,178 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 429 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน คิดเป็นร้อยละ 57 โดยมีส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบเฉลี่ยที่ 448 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ ตันเมื่อเทียบกับปี 2563 ในปี 2564 ธุรกิจอะซีโทนชะลอตัวเมื่อเทียบกับปี 2563 เนื่องจากสภาพตลาดมีความตึงตัวลดลง แม้ว่าอุปทานจะลดลง ตามสถานการณ์การผลิตผลิตภัณฑ์ฟีนอลจากปัจจัยข้างต้น แต่ ปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (IPA) เมทิลเมทาคริเลต (MMA) ตลอดจนอุตสาหกรรมการผลิตที่ เกี่ยวข้องอื่นๆ ค่อนข้างชะลอตัว ทั้งนี้ ในปี 2564 ราคาผลิตภัณฑ์ อะซีโทนเฉลี่ยที่ 862 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 64 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับ ปี 2563 อันเป็นผลมาจากราคาวัตถุดิบที่ผลักดันให้ราคาผลิตภัณฑ์ ในตลาดปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น 63 การประกอบธุรกิจ และผลการดำ �เนินงาน การกำ �กับดูแลกิจการ งบการเงิน ภาคผนวก

RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=