สถาบันการเงินที่ติดต่อประจ�ำ (เฉพาะกรณีที่บริษัทออกตราสารหนี้) ธนาคารกรุงเทพ จ� ำกัด (มหาชน) ที่อยู่ : เลขที่ 333 ถนนสีลม แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 โทรศัพท์ : 0-2230-2328, 0-2230-2295, 0-2626-3646 และ 0-2353-5421 ธนาคารกรุงไทย จ� ำกัด (มหาชน) ที่อยู่ : เลขที่ 35 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 โทรศัพท์ : 0-2208-4845-47 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ� ำกัด (มหาชน) ส� ำนักงานใหญ่ : เลขที่ 1222 ถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร 10120 สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 550 ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โทรศัพท์ : 0-2296-3999 และ 0-2296-4776 ธนาคารกสิกรไทย จ� ำกัด (มหาชน) ส� ำนักงานใหญ่ : เลขที่ 1 ซอยราษฎร์บูรณะ 27/1 ถนนราษฎร์บูรณะ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร 10140 สถานที่ติดต่อ : เลขที่ 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400 โทรศัพท์ : 0-2470-3074 และ 0-2888-8888 ต่อ 819 ธนาคารไทยพาณิชย์ จ� ำกัด (มหาชน) ที่อยู่ : เลขที่ 9 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทรศัพท์ : 0-2544-5740 และ 0-2777-6784 ส� ำหรับคดีฟ้องร้องที่ศาลจังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2561 ศาลจังหวัดระยองได้มีค� ำพิพากษาให้บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ยเป็นจ� ำนวนเงินสุทธิประมาณ 38 ล้านบาท โดย หักเงินเยียวยาที่บริษัทฯ ได้จ่ายชดใช้ให้โจทก์แล้วก่อนหน้านี้เป็น จ� ำนวน 24 ล้านบาท และส่วนที่เหลือบริษัทฯ ได้น� ำเงินไปวางที่ ศาลจังหวัดระยองในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 โดยมีโจทก์ บางรายยื่นอุทธรณ์ค� ำพิพากษาของศาลจังหวัดระยอง และ บริษัทฯ ได้ยื่นค� ำแก้อุทธรณ์ต่อศาลจังหวัดระยองเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 ได้มีค� ำพิพากษาให้บริษัทฯ ชดใช้ค่าเสียหายพร้อม ดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ที่ยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติม บริษัทฯ ได้น� ำเงิน จ� ำนวน 25 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมค่าเสียหายตามค� ำพิพากษา ไปวางที่ศาลจังหวัดระยองในวันที่ 30 กันยายน 2563 ต่อมา เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ศาลจังหวัดระยองได้นัดฟัง ค� ำพิพากษาหรือค� ำสั่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 เพิ่มเติมในวันที่ 26 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งโจทก์ได้ยื่นฎีกาต่อศาลแล้วเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 โดยศาลฎีกาได้มีค� ำสั่งรับฎีกาโจทก์เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 และได้ส่งส� ำเนาค� ำฟ้องฎีกาให้แก่บริษัทฯ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2565 บริษัทฯ ได้ยื่นค� ำแก้ฎีกาเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา ต่อมาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 บริษัทฯ ได้รับหมายเรียก และส� ำเนาค� ำฟ้องคดีแพ่งในคดีที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ยื่นฟ้องบริษัทฯ เป็นจ� ำเลย ต่อศาลจังหวัดระยอง ในข้อหาละเมิด ท� ำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ และให้ชดใช้ค่าเสียหาย โดยโจทก์กล่าวอ้างว่า เหตุการณ์ น�้ ำมันดิบรั่วไหลในปี 2556 ส่งผลให้โจทก์ได้รับความเสียหาย บริษัทฯ และที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริง หลักฐาน และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า บริษัทฯ ได้ชดใช้ เยียวยา และท� ำให้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กลับคืนสู่สภาวะปกติแล้ว หลังจากเกิดเหตุ จึงไม่มีหน้าที่ต้อง รับผิดตามฟ้อง ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่ได้บันทึกค่าเผื่อผลเสียหาย ที่อาจเกิดขึ้นจากคดีดังกล่าว คดีความเกี่ยวกับกรณีท่อรับน�้ ำมันดิบรั่ว ในปี 2565 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2566 บริษัทได้รับหมายเรียกและส� ำเนา ค� ำฟ้องคดีแพ่งในคดีที่สมาคมประมงพื้นบ้านท้องถิ่น และ ชาวประมง พ่อค้า แม่ค้าในจังหวัดระยองจ� ำนวนหนึ่ง ได้ยื่นฟ้อง บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จ� ำกัด (มหาชน) เป็นจ� ำเลย ที่ 1 และบริษัทฯ เป็นจ� ำเลยที่ 2 ต่อศาลจังหวัดระยอง ในข้อหา ละเมิด เรียกค่าเสียหาย และขอให้ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล โดยโจทก์กล่าวอ้างว่า เหตุการณ์น�้ ำมันดิบรั่วไหลส่งผลให้โจทก์ ได้รับความเสียหายจากการขาดรายได้ บริษัทฯ และที่ปรึกษา กฎหมายของบริษัทฯ ได้พิจารณาข้อเท็จจริง หลักฐาน และ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า บริษัทฯ ไม่ได้กระท� ำละเมิด ต่อโจทก์ตามที่กล่าวอ้างในค� ำฟ้อง จึงไม่มีหน้าที่ต้องรับผิด ตามฟ้อง โดยบริษัทฯ ได้ยื่นค� ำให้การต่อสู้คดีต่อศาลจังหวัด ระยองแล้ว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2566 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างการ พิจารณาของศาลจังหวัดระยอง ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่ได้บันทึก ค่าเผื่อผลเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากคดีดังกล่าว 129 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ �กัด (มหาชน) แบบ 56-1 One Report ประจำ �ปี 2566
RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=