GC One Report 2023 [TH]

ซึ่งจะท� ำให้มั่นใจได้ว่ าบริษัทฯ จะสามารถท� ำการตลาด ผลิตภัณฑ์ฯ ให้เป็นไปตามความต้องการของลูกค้าและตลาด ปลายทาง ในด้านการบริการฯ เพื่อให้การส่งมอบคุณค่าทั้งใน แง่สินค้าและการบริการแก่ลูกค้า เป็นไปตามความคาดหวังของ ลูกค้า บริษัทฯ ได้มีการจัดท� ำระบบและกระบวนการจัดการ ด้านการรับฟังเสียงของลูกค้าและตลาด (Voice of Customer and Market) อันได้แก่ การรับข้อเสนอแนะ ค� ำร้องขอ ไปจนถึง ค� ำร้องเรียน ทั้งในด้านสินค้าและบริการการขายและจัดส่ง เพื่อ น� ำไปปรับปรุงคุณภาพสินค้าและบริการฯ ให้สามารถตอบสนอง ต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการติดตามแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงและความต้องการ ของตลาดอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีผู้แทนขายส� ำหรับ การจ� ำหน่ายและกระจายสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วโลก อีกทั้งยังมีการด� ำเนินงานด้าน การขายและการตลาดภายใต้บริษัท จีซี มาร์เกตติ้ง โซลูชั่นส์ จ� ำกัด (GCM) ซึ่งมี 5 บริษัทย่อย ดังนี้ (1) เมืองโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม (2) เมืองจาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย (3) เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา (4) นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และ (5) เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างไรก็ตาม บริษัทย่อย ณ เมืองดูไบ อยู่ระหว่างการโอนกิจการมายังบริษัทฯ และนอกจากนี้ ยังมีส� ำนักงานตัวแทนอีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ที่ นครกวางโจว ประเทศจีน ทั้งนี้ การบริหารงานภายใต้บริษัท GCM เป็นการตอบสนองต่อความต้องการด้านผลิตภัณฑ์และ การบริการของลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ได้ อย่างทั่วถึง และขยายโอกาสทางการค้าให้ได้มากที่สุด อันจะ เป็นการยกระดับความสามารถทางด้านการแข่งขันทางธุรกิจ ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ในด้านคลังสินค้าและ การขนส่ง บริษัทฯ ได้มอบหมายให้บริษัท จีซี โลจิสติกส์ โซลูชั่นส์ จ� ำกัด (GCL) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม ให้ด� ำเนินการด้านการ บริหารคลังสินค้า การจัดเก็บสินค้า การบริหารสินค้าคงคลัง และการขนส่งผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์ทั้งหมดของบริษัทฯ เพื่อให้เกิด ความคล่องตัวในการบริหารงานด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนในการจัดจ� ำหน่ายและการ ขนส่งในระดับที่แข่งขันได้ และสามารถกระจายสินค้าให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ขึ้นรูปผลิตภัณฑ์พลาสติกที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,000 ราย และในต่างประเทศมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ให้ได้รับสินค้าและการบริการอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ การส่งออกไปจ� ำหน่ายในต่างประเทศในปี 2566 ส� ำหรับ ผลิตภัณฑ์โพลิเอทิลีน (PE) มีสัดส่วนการส่งออกคิดเป็นร้อยละ 57 โดยประมาณ ขณะที่ผลิตภัณฑ์โพลิสไตรีน (PS) สัดส่วนการ ส่งออกคิดเป็นร้อยละ 37 โดยประมาณ โดยมุ่งเน้นส่งออกไป ยังตลาดที่ได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ เช่น ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และอินโดนีเซีย รวมถึงพัฒนาตลาดสินค้า มูลค่าสูง (HVP หรือ High Value Product) ในแต่ละ Market-focused business อันได้แก่ สินค้ากลุ่มบรรจุภัณฑ์ ที่มีความยืดหยุ่น (Flexible Packaging) กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ชนิดแข็ง (Rigid Packaging) กลุ่มผลิตภัณฑ์ส� ำหรับการ ก่อสร้าง (Construction) และกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มี ศักยภาพในอนาคต (Emerging) ตลอดจนการปรับปรุงและ พัฒนาผลิตภัณฑ์ส� ำหรับกลุ่มสินค้าทั่วไป (Commodity) เพื่อ รักษาฐานลูกค้าตลาดในประเทศและต่างประเทศ และการขยาย ตลาดเข้าสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ตามกลยุทธ์การตลาด การก� ำหนดราคาขายผลิตภัณฑ์โพลิเมอร์รวมถึงผลิตภัณฑ์ พลอยได้จะอ้างอิงกับราคาตลาดอ้างอิง โดยราคาขายใน ประเทศอ้างอิงจากราคาประกาศในประเทศ ราคาขายใน ประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะอ้างอิงราคา ตลาดอ้างอิงในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ด้วยเงื่อนไขการค้า ระหว่างประเทศแบบ CFR Southeast Asia ซึ่งจะเปลี่ยนแปลง ไปตามสภาวะทางเศรษฐกิจ การเมือง อุปสงค์ และอุปทานของ เม็ดพลาสติกภายในภูมิภาค ส่วนราคาขายในประเทศอื่นๆ จะอ้างอิงราคาขายตามราคาตลาดอ้างอิง ณ ภูมิภาคหรือ ประเทศนั้นๆ บริษัทฯ ได้ต่อยอดและสร้ างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ โพลิเอทิลีนความหนาแน่นต�่ ำเชิงเส้น (LLDPE) โดยการพัฒนา เม็ดพลาสติกส� ำหรับผลิตภัณฑ์การขึ้นรูปแบบหมุน ผ่านบริษัท Revolve Group Limited (RGL) ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็น ผู้ผลิต Rotomolding Compound ที่มีฐานการผลิตในภูมิภาค ต่างๆ ได้แก่ ประเทศอังกฤษ โปแลนด์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และมาเลเซีย โดยในปี 2566 ได้ขยายฐานการผลิตแห่งที่ 6 ที่ประเทศไทย ในพื้นที่จังหวัดระยอง ภายใต้ชื่อบริษัท Matrix Polymers Thai Co., Ltd. (MTP) โดยมีก� ำลังการผลิต 12,000 ตันต่อปี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิดกับลูกค้า ทั้งผู้ขึ้นรูป พลาสติก (Rotomoulder) และลูกค้าผู้ใช้งานปลายทาง (End user) เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะ ด้าน อีกทั้งยังสามารถแก้ปัญหาทางเทคนิคให้กับลูกค้าได้อย่าง รวดเร็ว เป็นไปตามกลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นที่จะยกระดับ สินค้าของบริษัทฯ ให้มีคุณค่าต่อลูกค้าและตลาดมากขึ้น นอกจากนี้ มีการพัฒนาเม็ดพลาสติกโพลิโพรพิลีนคอมพาวน์ (PP Compound) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และ ลูกค้าเม็ดพลาสติกโพลิโพรพิลีน ต่อยอดธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรม ยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นการเติบโตทางธุรกิจด้วยการตลาดตาม อุตสาหกรรมปลายน�้ ำ เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม เป้าหมาย 4 กลุ่มหลัก อันได้แก่ อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ อุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรม ยานยนต์ 54

RkJQdWJsaXNoZXIy ODg4NTI=