ข่าวแจ้งตลาดหลักทรัพย์
06 สิงหาคม 2557
นำส่งงบการเงินสำหรับไตรมาส 2/2557 และ MD&A
ที่ 01- 0561/2557
6 สิงหาคม 2557
เรื่อง นำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนและงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557
และคำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการและแบบรายงานที่เกี่ยวข้องของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล
จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย
เรียน กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
สิ่งที่ส่งมาด้วย
1. งบการเงินของ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ("บริษัทฯ") และบริษัทย่อย สำหรับงวด 3
เดือนและงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีแล้ว จำนวน 1 ฉบับ
และ ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษจำนวน 1 ฉบับ
2. แบบรายงานสรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ (แบบ F45-3)
3. คำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการสำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557
บริษัทฯ ขอนำส่งงบการเงินสำหรับงวด 3 เดือนและงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2557
ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ซึ่งผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ได้แก่บริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย
สอบบัญชี จำกัด ผ่านการสอบทานจากคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ แล้ว (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 และ
2) พร้อมทั้งจัดทำคำอธิบายและบทวิเคราะห์ผลการดำเนินงานไว้ด้วย (รายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 3)
ในไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิรวม 6,085 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.35 บาท/หุ้น
ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 จากไตรมาส 2/2556 ซึ่งมีกำไรรวมสุทธิอยู่ที่ 4,172 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.93
บาท/หุ้น และ ปรับตัวลดลงร้อยละ 3 จากไตรมาส 1/2557 ที่มีผลกำไรรวมสุทธิ 6,296 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.40
บาท/หุ้น
สรุปผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
(หน่วย : ล้านบาท)
ไตรมาส ไตรมาส ไตรมาส YoY QoQ 6 เดือน 6 เดือน
2/2556 1/2557 2/2557 % + /(-) % + /(-) สิ้นสุด สิ้นสุด
มิ.ย.2557 มิ.ย. 2556
รายได้จากการขาย
111,887 146,366 152,401 36% 4% 253,195 298,767
EBITDA 11,466 10,999 10,475 -9% -5% 27,885 21,474
EBITDA Margin
(%) 10% 8% 7% -3% -1% 11% 7%
กำไรสุทธิ 4,172 6,296 6,085 46% -3% 16,247 12,381
กำไรสุทธิ
บาท/หุ้น 0.93 1.40 1.35 46% -3% 3.60 2.75
Adj. EBITDA* 12,888 11,574 11,534 -11% 0% 29,950 23,108
Adj. EBITDA
Margin (%) 12% 8% 8% -4% 0% 12% 8%
หมายเหตุ: * Adjusted EBITDA คือ EBITDA
ที่ไม่รวมผลกระทบจากมูลค่าสต๊อกน้ำมันและไม่รวมผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท Vencorex
ภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2557
มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจการกลั่นและธุรกิจโอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อ
เนื่อง อย่างไรก็ตาม ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2557
นี้ได้รับผลกระทบสำคัญจากราคาผลิตภัณฑ์พาราไซลีนที่ลดลงอย่างมากจากปัญหาอุปทานส่วนเกินในตลาด
ประกอบกับมีการตั้งสำรองค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท Vencorex
ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 51 ทำให้บริษัทฯ
ต้องรับรู้สำรองค่าใช้จ่ายดังกล่าวตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 1,142 ล้านบาทในไตรมาส 2/2557 ทั้งนี้
บริษัทฯ มี Adjusted EBITDA อยู่ที่ 11,534 ล้านบาท (Adjusted EBITDA คือ EBITDA
ที่ไม่รวมผลกระทบจากมูลค่าสต๊อกน้ำมันและไม่รวมผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท Vencorex)
ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 2/2556 ร้อยละ 11 และ ลดลงจากไตรมาส 1/2557 เล็กน้อย โดย Adjusted EBITDA Margin
ของไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 8
ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจหลักสามารถสรุปได้ดังนี้
ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 2/2557 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 106.13
เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
โดยมีสาเหตุหลักมาจากปัญหาความไม่สงบในยูเครนและตะวันออกกลางทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่ออุปทานของน้ำมันดิ
บ ในขณะที่ความต้องการของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในไตรมาส 2
ลดลงตามฤดูกาลซึ่งโดยปกติเป็นไตรมาสที่มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมน้อยกว่าไตรมาสอื่นๆ
โดยในไตรมาสนี้โรงกลั่นมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเต็มกำลังที่ร้อยละ 103
และเมื่อเทียบผลการดำเนินงานของกลุ่มการกลั่นในไตรมาส 2/2557 ซึ่งมี Market GRM อยู่ที่ 4.44
เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 87 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 เนื่องจากในไตรมาส 2/2556
มีการปิดซ่อมบำรุงตามแผน อย่างไรก็ตาม Market GRM ในไตรมาสนี้ลดลงเพียงร้อยละ 1
เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าแม้ว่าส่วนต่างระหว่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและวัตถุดิบน้ำมันดิบอ้า
งอิงจะลดลงอย่างมาก แต่เนื่องจากบริษัทฯ
สามารถขายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในประเทศเพิ่มขึ้นและได้วัตถุดิบในประเทศในการนำเข้าผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้
Market GRM ไม่ได้ลดลงมากนัก
ผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในไตรมาส 2/2557 ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เนื่องจากส่วนต่างราคาพาราไซลีนกับวัตถุดิบคอนเดนเสทลดลงมาอยู่ที่ 333 เหรียญสหรัฐ/ตัน ลดลงร้อยละ 38
เมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2556 และลดลงร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2557
ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากอุปทานส่วนเกินในตลาดของผลิตภัณฑ์พาราไซลีนที่ยังอยู่ในระดับสูง
จากกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่อัตราการขยายตัวของอุปสงค์เพิ่มขึ้นไม่ทันกำลังการผลิตใหม่
ส่งผลให้ P2F ของผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ในไตรมาส 2/2557 เฉลี่ยอยู่ที่ 87 เหรียญสหรัฐ/ตันของผลิตภัณฑ์ BTX
ลดลงจากไตรมาส 2/2556 ร้อยละ 73 และ ลดลงจากไตรมาส 1/2557 ร้อยละ 48
สำหรับผลประกอบการของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดย Adjusted EBITDA
ในไตรมาส 2/2557 ของกลุ่มธุรกิจนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2556 ร้อยละ 5 และ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส
1/2557 ร้อยละ 16 เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะ HDPE ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 9
จากไตรมาส 2/2556 และ เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากไตรมาส 1/2557
ประกอบกับปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามอัตราการใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากในไตรมาส 1/2557
มีการหยุดซ่อมบำรุงประจำปีของหน่วยโอเลฟินส์ I-1 และการหยุดฉุกเฉินของโรงโอเลฟินส์ I-4/1 ทั้งนี้
Adjusted EBITDA Margin ของกลุ่มผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องในไตรมาสนี้ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ
25 ซึ่งมีสาเหตุสำคัญจากปริมาณวัตถุดิบก๊าซอีเทนที่ได้รับมีสัดส่วนลดลงทำให้สัดส่วนการใช้แนฟทา และ NGL
เป็นวัตถุดิบนำเข้าผลิตเพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ มีผลกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ และ NRV สุทธิรวม 1,180 ล้านบาท
ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นระหว่างไตรมาส
อีกทั้งยังรับรู้กำไรจากการบริหารความเสี่ยงผลิตภัณฑ์ (Commodity Hedging) 411 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ ต้องตั้งสำรองค่าใช้จ่ายตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัท
Vencorex ในประเทศฝรั่งเศส โดยแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจดังกล่าวบริษัทฯ จะทำการปรับปรุงหน่วยผลิต TDI
(Toluene Diisocyanate) ในประเทศฝรั่งเศสให้เป็นหน่วยผลิต HDI (Hexamethylene Diisocyanate)
ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า ผลของการปรับปรุงจะทำให้บริษัท Vencorex
ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งกับพนักงานและสินทรัพย์ที่ไม่สามารถนำไปใช้งานได้ในอนาคตรวมประมาณ
50.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,239 ล้านบาท โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของบริษัทฯ ในสัดส่วนร้อยละ 51
ประมาณ 1,142 ล้านบาท ที่รับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในไตรมาส 2/2557 อย่างไรก็ตาม
การปรับโครงสร้างธุรกิจในครั้งนี้เป็นไปตามแผนงานของบริษัทฯ ที่จะนำเทคโนโลยีการผลิตสาร Isocyanate
ของบริษัท Vencorex มาดำเนินการผลิตในทวีปเอเชียโดยบริษัท Vencorex
จะดำเนินการทำวิจัยและพัฒนาระบบกระบวนการผลิต TDI อย่างต่อเนื่องต่อไป
เหตุการณ์ที่มีผลต่องบการเงินอย่างมีสาระสำคัญในไตรมาส 2/2557 ไตรมาส 1/2557 และไตรมาส 2/2556
โดยมีรายละเอียดดังนี้
- ในเดือนมิถุนายน 2557 บริษัทฯ
ได้รับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงโครงสร้างธุรกิจของบริษัท Vencorex ในประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งในการปรับปรุงดังกล่าวทำให้บริษัท Vencorex ต้องรับรู้ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งกับพนักงาน
และสินทรัพย์ที่ไม่สามารถนำไปใช้งานได้ในอนาคตรวมประมาณ 50.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 2,239 ล้านบาท
โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนของบริษัทฯ ในสัดส่วนร้อยละ 51 ประมาณ 1,142 ล้านบาท
โดยรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายทั้งจำนวนในไตรมาส 2/2557
- บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท Myriant จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2556 และ
บริษัท Myriant ได้เข้าซื้อหุ้นจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2557
ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 47.18 เป็นร้อยละ 84.21 ดังนั้นบริษัท Myriant
จึงเปลี่ยนสภาพจากบริษัทร่วมเป็นบริษัทย่อย
โดยการเข้าซื้อหุ้นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้าน
Biotechnology (Biotechnology R&D Center) ของบริษัทฯ
และรองรับการต่อยอดการขยายธุรกิจไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2557 บริษัทฯ
มีสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท Myriant อยู่ที่ร้อยละ 84.02 จากการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant)
ของพนักงาน
- บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัท PPCL จากบริษัท ปตท. ทั้งจำนวน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2556
ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 100
ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทฯ ในส่วนของบริษัท PPCL ลดลงจากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 0
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีเหตุการณ์สำคัญในไตรมาส 2/2557 และระยะเวลาใกล้เคียงที่สามารถสรุปได้ดังนี้
- ในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 บริษัทฯ จะทำการออกหุ้นกู้เงินบาทชนิดระบุชื่อผู้ถือประเภทไม่ด้อยสิทธิ
ไม่มีหลักประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ มูลค่ารวมไม่เกิน 10,000 ล้านบาท อายุ 7 ปี
อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.5 ต่อปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สำหรับโครงการลงทุน
เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน และชำระคืนหุ้นกู้และหนี้เดิม
- เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 บริษัทฯ ได้จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2557 ณ
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค และในที่ประชุมฯ ผู้ถือหุ้นบริษัทฯ
ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2556 ของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 3.40 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 15,330 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 46 ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ บริษัทฯ
ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 1.62 บาท เป็นเงินประมาณ 7,304 ล้านบาท
และได้จ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายในอัตราหุ้นละ 1.78 บาท เป็นเงินประมาณ 8,026 ล้านบาท ในวันที่ 25 เมษายน
2557
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นายบวร วงศ์สินอุดม)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
หน่วยงานการเงินองค์กรและนักลงทุนสัมพันธ์
โทร. 02 265 8421, 02 265 8574, 02 140 8712-4
______________________________________________________________________
สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้
และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ
และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้